นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่า การดำเนินการใดๆของเฟดในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่สามารถที่จะชดเชย ความเสียหายทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากภาวะหน้าผาการคลัง หรือมาตรการการปรับขึ้นภาษีอย่างรวดเร็วและปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่าย ของรัฐบาลลง ซึ่งจะเริ่มมีผลในเดือนหน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีโอบามาและเจ้าหน้าที่นิติบัญญัตของพรรครีพับลิกัน มีความเห็นไม่ลงรอยกัน แต่อย่างไรก็ดี นายเบอร์นันเก้เชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะสามารถแก้ไขได้โดยไม่ได้ สร้างความเสียหายตามมาในระยะยาว โดยระบุในงานแถลงข่าวภายหลังการประชุมเฟดครั้งสุดท้ายของปีว่า “เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ภาวะหน้าผาการคลังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ" โดยความไม่แน่นอนส่งผลให้ภาคธุรกิจปรับลดงบการลงทุนลง นอกจากนี้ นายเบอร์นันเก้ยังระบุว่า สิ่งที่ทั้งรัฐสภาและนายโอบามาสามารถช่วยได้มากที่สุดก็คือ การแก้ปัญหาในประเด็นดังกล่าวอย่างรวดเร็ว “ผมหวังว่ารัฐสภาจะทำในสิ่งที่ถูกต้องในเรื่องหน้าผาการคลัง ปัญหากำลังใกล้จะเกิดขึ้นทุกขณะ อย่างไรก็ตาม เฟดไม่สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดจากภาวะหน้าผาการคลังได้ เพราะนั่นเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก" นายเบอร์นันเก้กล่าว